ครัววินเทจ (Vintage Kitchen) เปลี่ยนครัวเก่าล้าสมัยให้กลายเป็นครัวสวยละมุนสไตล์ยุโรป 

หากพูดถึงสไตล์การตกแต่งครัวยอดฮิตที่ติดท็อป 3 อันดับแรกของคนหลายคนจะต้องมี “ครัววินเทจ” ติดโผมาอย่างแน่นอน เนื่องจากการแต่งครัวสไตล์วินเทจจะช่วยปรับให้ห้องครัวที่ดูไม่มีชีวิตชีวาให้รู้สึกอบอุ่นดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหลักการจัดห้องครัวแบบวินเทจนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะจับของที่ “ดูคล้ายว่าจะวินเทจ หรือ ของเก่าเหลือใช้มารวม ๆ กันเท่านั้น แต่ว่าจะต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ซึ่งใครที่เป็นมือใหม่และอยากจะลองตกแต่งครัวดูเองโดยไม่จ้างใคร  เราจะขอแนะนำให้ลองทำตามนี้ดูค่ะ 
 

การแต่งห้องครัวสไตล์วินเทจมาจากไหน? 

คำว่า “วินเทจ (Vintage)” เป็นแฟชั่นในช่วงปี ค.ศ. 1910 – 1930 ซึ่งถือว่าเป็นยุคทองของกลุ่มผู้ดีทั้งหลายที่จะให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับสิ่งของรอบตัว รวมถึงการตกแต่งบ้านในโทนสีที่ละมุนละไม สีไม่ฉูดฉาดบาดตาสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์ก็จะเน้นมีสีและรูปทรงที่นุ่มนวลมีเส้นโค้ง ไม่ตรงแข็งทื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น และถึงแม้ว่าเวลาที่ผ่านเลยไปจนเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ของการตกแต่งครัวเปลี่ยนไปเป็นแบบโมเดิร์นดูทันสมัยมากขึ้นในยุคต่อ ๆ มา แต่การแต่งบ้าน-ตกแต่งครัวแบบวินเทจก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เพราะว่าจุดเด่นของการตกแต่งสไตล์วินเทจ คือ ความอบอุ่นที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็ให้ความรู้สึกสบายใจ ทำให้รำลึกถึงความทรงจำในอดีตที่แสนสุข และนอกจากนี้ความวินเทจก็ยังคงแฝงความคลาสสิคที่ผ่านไปกี่ยุค ห้องครัวของเราก็จะยังดูทันสมัย ไม่ให้ความรู้สึกว่าล้าสมัย และยิ่งทำให้เสน่ห์ของความวินเทจขึ้นไปอีกตามอายุการใช้งานของเรา

แบบครัวสวย ๆ จาก Kvik   ชุดครัว PAVIA

ข้อดีของการจัดห้องครัวแบบวินเทจ 

1. ไม่ต้องซื้อของใหม่ 

เนื่องจากเสน่ห์ของการจัดครัวแบบวินเทจคือการมิกซ์แอนด์แมทช์ของใช้ชิ้นเดิม หรือสิ่งของวัสดุเก่าแล้วนำมาปรับเปลี่ยน ใส่ความคิดสร้างสรรค์นิด อาศัยความ DIY เข้าไปอีกหน่อย ก็สามารถใช้ประโยชน์จากของเก่าได้โดยที่ไม่ต้องซื้อของใหม่ให้เปลืองเงิน 
 

2. มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

เพราะสิ่งของที่นำมาใช้ตกแต่งนั้นจะไม่ใช่ของที่ซื้อใหม่ ดังนั้นรูปแบบแนวการตกแต่งห้องครัวจึงจะเปลี่ยนไปตามสิ่งของนั้น ๆ ทำให้ห้องครัวของคุณมีความสวยงามแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร
 

3. ทำให้เกิดเรื่องราว

กระตุ้นความทรงจำบางอย่าง เนื่องจากสิ่งของที่ใช้นำมาใช้มักจะเป็นของชิ้นเก่า ซึ่งของชิ้นนั้นก็ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย เช่น ทัพพีด้านนี้อาจจะเป็นด้ามที่คุณต้องใช้เวลาตามหาซื้ออยู่นานมากกว่าจะได้มา หรือผ้าปูโต๊ะตรงนี้อาจจะเป็นผ้าปูโต๊ะที่คุณยายถักขึ้นมาอย่างบรรจง ซึ่งความทรงจำเหล่านี้จะถูกซ่อนอยู่ในของทุกชิ้น ทำให้ทุกอย่างมีความหมายและจะช่วยสร้างความทรงจำที่ดี ความรู้สึกดี ๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกไปจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป 
 

4. ช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่น

สร้างความรู้สึกบวกเวลาใช้ห้องครัว ทำให้อยากทำอาหาร และใช้เวลานี้สร้างอาหารที่ใส่ความทรงจำดี ๆ ต่อไป

 

เริ่มต้นการจัดห้องครัวสไตล์วินเทจ ต้องเริ่มจากอะไร? 

สำหรับใครที่อยากเริ่มจัดแต่งห้องครัวใหม่ให้เป็นแบบครัววินเทจ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากอะไรก่อนดี สามารถลองเรียงลำดับขั้นตอนได้ดังนี้ 

1. เลือกรูปแบบครัว 

โดยปกติแล้วครัวแบบวินเทจนั้นสามารถเจออยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ 

1.1 ห้องครัวปูนวินเทจ

ลักษณะของครัวปูนก็คือ เคาน์เตอร์จะทำจากการก่อปูนซีเมนต์ อิฐและอิฐ ข้อดีของครัวปูนคือเหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะครัวไทยเพราะอาหารไทยนั้นมีทั้งการโขก สับ ตำที่ต้องออกแรงเยอะ ครัวปูนจะสามารถรองรับแรงเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องกลัวว่าเคาน์เตอร์จะพัง นอกจากนี้ครัวปูนยังสามารถนำไปต่อยอดได้หลายสไตล์ เช่น ปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ สไตล์มินิมอล ครัววินเทจ แต่ว่าก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างคือ จะต้องระวังเรื่องปูนแตก เกิดรอยร้าวทำให้เกิดความไม่สวยงาม และยังเป็นการก่อสร้างแบบถาวร ไม่สามารถเปลี่ยนมุม เคลื่อนย้ายได้ หากต้องการแต่งห้องใหม่จะต้องทุบทิ้งเท่านั้น 

 

1.2 ห้องครัว วินเทจไม้

จุดเด่นของการแต่งครัววินเทจแบบไม้คือ สิ่งของในครัวส่วนใหญ่จะมีวัสดุเป็นไม้ เคาน์เตอร์ครัวก็ทำจากไม้ธรรมชาติเน้นการออกแบบที่ดูเรียบง่าย สีเอิร์นโทนจากไม้ยังทำให้บรรยากาศของห้องครัวละมุน ดูเป็นระเบียบให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนใหญ่เคาน์เตอร์ครัวที่ใช้จัดก็จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแบบสำเร็จรูปหรือไม่ก็อาจจะเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built-in)  ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกหากต้องการจะจัดห้องครัวใหม่ สามารถตกแต่งได้หลายสไตล์ แต่ข้อควรระวังของการใช้เคาน์เตอร์ครัวแบบสำเร็จรูปคือควรเลือกเคาน์เตอร์ครัวที่ผลิตจากวัสดุที่ได้รับมาตรฐาน มีรับประกันรับรองความแข็งแรง เพราะเคาน์เตอร์ครัวแบบสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่ถูกและ “ดูเหมือนจะแข็งแรง” ก็จริง แต่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ โดนน้ำ โดนความชื้นและความร้อนบ่อย ๆ ไม้ก็เริ่มบวม ท็อปหน้าถลอกเนื่องจากใช้วัสดุไม้คุณภาพต่ำและผิวท็อปด้านหน้าเคลือบไม่ดีพอทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ ดังนั้นควรเลือกเคาน์เตอร์ครัวแบบสำเร็จรูปที่ดี ลงทุนครั้งเดียวแล้วใช้ไปยาว ๆ เลยจะดีที่สุด 

 

2. เลือกโทนสีสำหรับห้องครัวสไตล์วินเทจ

โทนสีที่นิยมใช้ในห้องครัวแบบวินเทจนั้นมักจะเป็นโทนสีอ่อน ๆ ที่ไม่ฉูดฉาด โดยส่วนใหญ่จะเลือกเป็นครัววินเทจลายไม้ เช่น เคาน์เตอร์สีไม้ พื้นสีไม้ พื้นไม้ลายก้างปลา ผนังอาจจะเป็นปูนเปลือย หรือก่ออิฐก็จะให้บรรยากาศคลาสสิค และอีกแบบที่ได้รับความนิยมไม้แพ้กันคือ ครัววินเทจสีขาว ซึ่งส่วนใหญ่โทนนี้มักจะใช้จัดในห้องครัวที่มีพื้นที่เล็ก ๆ เพราะสีขาวจะช่วยเพิ่มบรรยากาศความโล่งโปร่ง ทำให้ดูสะอาดตาและไม่อึดอัด กลายเป็นครัววินเทจเล็ก ๆ ที่น่าใช้งานมากขึ้น หรือหากต้องการเพิ่มสีสันให้ห้องครัวสดใสขึ้นอาจจะเลือกเคาน์เตอร์ครัวสีเขียวก็สามารถเพิ่มความสบายตาให้ห้องครัวแลดูมีชีวิตชีวามากขึ้นได้ 

แบบครัวสวย ๆ จาก Kvik  – ชุดครัว OMBRA

3. ของตกแต่งห้องครัว

ด้วยคอนเซปต์ของการใช้ของตกแต่งวินเทจนั้นจะไม่เน้นการซื้อของตกแต่งที่ใหม่เอี่ยมมาใช้ เพราะของใหม่เอี่ยมเงาวับนั้นจะทำให้เสน่ห์ของความเป็นวินเทจที่มีกลิ่นอายของการย้อนเวลานั้นหายไป ดังนั้นของตกแต่งในครัวที่เหมาะสมกับการจัดแต่งห้องครัวสไตล์นี้ คุณอาจจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และฝีมือพลิกแพลงเล็กน้อย เช่น อาจจะประยุกต์นำกาน้ำชาใหม่เก่ามาทำเป็นแจกันใส่ดอกไม้ หรือผ้าม่านผืนเก่านำมาทำผ้าปูโต๊ะหรือผ้ารองจานแทน เป็นต้น 

แบบครัวสวย ๆ จาก Kvik  – ชุดครัว TINTA

4. แสงสว่างในห้องครัว

ครัวสไตล์วินเทจนั้นสามารถเข้ากับโคมไฟและหลอดไฟได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟติดเพดาน ไฟแบบแขวน ไฟติดผนัง หรือโคมไฟตั้งพื้น เพียงแต่ว่าควรเลือกโทนสีที่ไปในทิศทางเดียวกันกับโทนสีเดิมของห้องครัว

5. ข้าวของเครื่องใช้ในครัว 

ห้องครัวแบบวินเทจนั้นจะมีรูปแบบการจัดวางของบนเคาน์เตอร์ครัววินเทจที่แตกต่างกับห้องครัวแบบมินิมอลชัดเจน นั่นก็คือห้องครัวแบบมินิมอลนั้นจะเน้นการใช้ข้าวของเท่าที่จำเป็น เช่น จานที่ใช้ประจำ มีดที่ใช้ประจำ เครื่องปรุงที่ใช้ประจำเท่านั้นออกมาวาง เพื่อไม่ให้ข้าวของนั้นกองเต็มเคาน์เตอร์จนทำลายความเป็นมินิมอลจนกลายเป็นมินิมาร์ท แต่ว่าการจัดห้องครัวแบบวินเทจนั้นจะไม่ได้มีข้อจำกัดเช่นนั้น คุณสามารถนำของตกแต่งกระจุกกระจิกมาตกแต่งเคาน์เตอร์เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ห้องครัวของคุณได้ แต่ก็ต้องระวังการวางเยอะเกินไปจนกลายเป็นรก ดังนั้นหากใครที่มีของใช้ในครัวเยอะก็สามารถนำของเหล่านั้นจัดเก็บไว้ในลิ้นชักเคาน์เตอร์แทนก็จะทำให้บ้านดูเรียบร้อยขึ้นได้

ชุดครัว Kvik เคาน์เตอร์ครัวสวย ๆที่ออกแบบมาเพื่อห้องครัวทุกสไตล์

“Kvik” คือแบรนด์เคาน์เตอร์ครัวสัญชาติเดนมาร์กที่ผลิตเคาน์เตอร์ครัวที่รู้ใจผู้ใช้งาน เป็นผู้นำด้านการออกแบบเคาน์เตอร์ครัวที่อิงตามความใช้งานจริง ผสานกับการออกแบบที่ความสวยงามเรียบง่าย  สามารถเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่ใช้งานได้ดีและในขณะเดียวกันก็เป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่ล้ำสมัย ช่วยเปลี่ยนห้องครัวของคุณให้กลายเป็นพื้นที่สังสรรค์ที่มีความสุขของทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้วัสดุที่เราใช้ยังเป็นไม้ธรรมชาติเช่น ไม้โอ๊ค ไม้วอลนัท และไม้สักที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามมาตรฐานของ FSC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้นและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สินค้าทุกชิ้นผลิตและนำเข้าจากเดนมาร์ก ระบบขนส่งและติดตั้งของเราก็มีการบริการที่รวดเร็วใช้เวลาเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น พร้อมรับประกันคุณภาพยาวนานกว่า 25 ปี 

Kvik พร้อมบริการคุณแล้วทั่วประเทศแล้ว 9 สาขา ดังนี้  Kvik ทองหล่อ, Kvik พระราม9, Kvik  ราชพฤกษ์, Kvik บางนา, Kvik พัทยา, Kvik เชียงใหม่ และ Kvik ภูเก็ต

FAQ คำถามที่พบบ่อย

ห้องครัวเล็กมาก จัดยังไงให้กว้าง

ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับห้องครัวบนคอนโดหรือหอพักที่ส่วนใหญ่มักจะมีพื้นที่จำกัด ดังนั้นการจัดห้องครัวที่มีพื้นที่ขนาดเล็กอาจจะต้องอาศัยทริคเล็กน้อย เช่น การเลือกใช้โทนสีอ่อนมากกว่าโทนสีเข้ม ๆ เช่นสีขาว สีเบจ สีน้ำตาลอ่อน ส่วนของเคาน์เตอร์ก็จะแนะนำให้วางในรูปแบบตัว I  หรือตัว L แบบติดมุมผนังจะดีที่สุด ที่ผนังอาจจะใช้วิธีติดกระจกเพื่อหลอกสายตาเป็นจิตวิทยาที่ช่วยทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นก็จะลดความอึดอัดลงได้ดี

วิธีการจัดห้องครัวแบบประหยัดพื้นที่

การมีพื้นที่ใช้งานน้อยนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการหาทางใช้ทรัพยากรพื้นที่ทุกอย่างให้ได้คุ้มค่าที่สุด เช่น การใช้เคาน์เตอร์ครัวแทนโต๊ะอาหาร หรือใช้โต๊ะติดผนังสามารถพับเก็บได้หลังใช้งาน ติดที่วางจาน-แก้วแบบพับเก็บได้บนซิงค์ล้างจาน ก็จะช่วยทำให้สามารถใช้พื้นที่ในห้องครัวได้มากขึ้น

วิธีจัดห้องครัวให้เป็นระเบียบ

ส่วนใหญ่ที่องครัวหลาย ๆ บ้านมักจะดูรกเพราะว่ผู้ใช้งานมักจะวางสิ่งของไปแบบลวก ๆ เน้นใกล้มือและสะดวก ไม่ค่อยจัดอย่างพิถีพิถันทำให้ดูไม่มีระเบียบ วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการจัดพื้นที่สำหรับเก็บของเช่น กล่องสำหรับใช้ขวดซอส เครื่องปรุงโดยแบ่งตามประเภทที่ใช้ ของแห้งควรเก็บใส่กล่องถนอมอาหารแล้วใส่ตู้เย็น ติดชั้นวางของ หรือจัดใส่บนเคาน์เตอร์ลอยเหนือเคาน์เตอร์ ติดที่แขวนหม้อและกระทะ และติดตั้งลิ้นชักในเคาน์เตอร์เพิ่มเพื่อแบ่งหมวดหมู่ของอุปกรณ์ตามการใช้งาน เช่น มีดไว้ในช่องอุปกรณ์ทำอาหาร ช้อนส้อมไว้ช่องใส่อุปกรณ์ทานอาหารก็จะช่วยให้ครัวเป็นระเบียบและน่าใช้งานมากขึ้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง