สำหรับคนที่ชื่นชอบการทำอาหาร การจัดห้องครัวให้สวย มีอุปกรณ์ครบครัน ถือเป็นสุดยอดความใฝ่ฝัน ซึ่งหนึ่งในครัวในฝันที่นักทำอาหารเป็นงานอดิเรกชื่นชอบเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ การจัดครัวในรูปแบบของครัวฝรั่งหรือครัวสไตล์ยุโรปนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ยังเป็นมือใหม่หัดแต่งครัวและอาจจะกำลังสงสัยว่าครัวยุโรปคืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง ? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
ไอเดียครัวยุโรปสไตล์ฝรั่ง
ครัวยุโรปคืออะไร?
งานครัวหรือห้องครัวเป็นห้องที่ดูเหมือนเป็นห้องธรรมดา แต่ความจริงแล้วกลับมีความสำคัญอย่างมากเพราะใช้ประกอบอาหารทานในครอบครัว ร่วมถึงใช้ประกอบอาชีพ ห้องครัวนั้นหากมองในแง่ของความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของมนุษยศาสตร์เลย เพราะก่อนหน้านี้บรรพบุรุษของพวกเราไม่รู้จักไฟมาก่อน ทำให้มนุษย์รับประทานเนื้อดิบๆ ที่ได้จากการล่า จนมาถึงช่วงประมาณ 800,000 ปีที่เเล้ว หรือในยุคของ Homo erectus บรรพบุรุษของเราก็ค้นพบการใช้ไฟขึ้น ซึ่งไฟนี่เองก็ก่อให้เกิดวิวัฒนาการหลายอย่างของมนุษยศาตร์ คือ การเปลี่ยนจากการทานเนื้อดิบมาเป็นทานเนื้อที่ปรุงสุกแล้ว ถึงแม้ว่าในยุคก่อนนั้นจะยังไม่มีการปรุงแต่งรสชาติ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่บรรพบุรุษของเราเริ่มมีการใช้ประโยชน์ของไฟในการประกอบอาหาร และเริ่มสร้างสถานที่สำหรับปรุงอาหาร เริ่มเก็บไม้และกักเก็บอาหาร จนกระทั่งต่อมาริเริ่มประดิษฐ์ครัวแบบง่ายๆ ด้วยการสร้างเตาแบบแขวนเหนือกองไฟเพื่อใช้แขวนหม้อสำหรับปรุงอาหารให้เป็นกิจลักษณะกว่าเดิม
ในศตวรรษที่ 16 เริ่มมีการปรุงอาหารผ่านทางปล่องไฟหรือเตาผิงเพื่อลดควันและเขม่าของกองไฟไม่ให้เข้ามาในบ้าน วิธีนี้ค่อนข้างสะดวกและนิยมมากเพราะนอกจากจะปรุงอาหารได้แล้วยังอาศัยไฟช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ด้วย
จนกระทั่งต่อมาครัวก็เริ่มถูกพัฒนาจากการปรุงผ่านเตาผิงมาเป็น “เตาไม้” เพื่อให้สะดวกในการทำอาหารมากขึ้น และเตาไม้นั้นก็ค่อยๆ พัฒนาต่อมาเป็นเตาโลหะในช่วงปีศตวรรษที่ 18 ซึ่งจุดเก่นของเตาโลหะชนิดนี้ก็คือ มีการออกแบบตัวท่อที่คดยาวต่อออกจากปล่องไฟเพื่อไม่ให้ความร้อนและควันระอุอยูภายในตัวบ้าน และก็มีการพัฒนาให้กลายเป็นเตาถ่านที่สามารถตอบโจทย์การทำอาหารได้มากกมายเตาไม้และเตาโลหะ เพราะว่าสามารถทนความร้อนได้สูง มีท่อสำหรับลำเลียงควันไฟ ทำให้เตตาชนิดนี้เป้นที่นิยมอย่างมาก
ต่อมาโลกเริ่มตระหนักถึงมลภาวะทางอากาศมากขึ้น ถึงริประดิษฐ์สิ่งที่เรียกกว่า “เตาแก๊ส” ขึ้นมาเแทน ซึ่งเตาแก๊สก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วเพราะมีน้ำหนักเบาและเตามีขนาดเล็กกว่าเตารุ่นก่อนๆ มาก และใช้งานง่ายกว่าด้วย
เคาท์เตอร์ครัวเป็นที่นิยมขึ้นมาเมื่อไร?
เมื่อก่อนห้องครัวนั้นมักจะเป็นห้องที่ต้องเก็บไว้หลังบ้านหรอต้องซ่อนไว้ให้ไกลจากสายตาแขกผู้มาเยือน เพราะถูกมองว่าสกปรก มีแต่ควันร้อนระอุ และไม่น่ามอง แต่เมื่อเข้ายุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เริ่มมีการออกแบบครัวในรูปแบบใหม่มีการนำเตาประกอบอาหารมาวาง ประดิษฐ์เคาท์เตอร์ครัวสำหรับจัดเตรียมและปรุงอาหารเพื่อให้สะดวกสบาย มีการแบ่งโซนการปรุงและเตรียมอาหารต่างๆ อย่างชัดเจน รวมถึงออกแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทำให้ครัวยุคใหม่เป็นที่นิยมและกลายเป็นต้นแบบของห้องครัวร่วมสมัยที่ใช้กันจนถึงปัจจุบัน
ครัวยุโรป ในบ้านกับในร้านอาหารแตกต่างกันหรือไม่?
สำหรับห้องครัวฝรั่งหรือห้องครัวยุโรบในบ้านนั้นอาจจะไม่มีความซับซ้อนเท่าไร เพราะจะเน้นความสะดวกของเจ้าของบ้านเป็นหลัก แต่หากพูดถึงครัวฝรั่งในร้านอาหารชนชั้นสูงหรือโรงแรมชื่อดังจะให้ความสำคัญกับครัวอย่างมาก โดยจะมีการแบ่งโซนการปรุง จัดเตรียม อาหารในส่วนต่างๆ ต่างชัดเจน โดยแต่งละส่วนจะใช้ในการปรุงอาหารแต่ละแบบไม่เหมือนกัน
ประเภทของครัวยุโรป ในร้านอาหารมีอะไรบ้าง
- ครัวร้อน (Hot Kitchen) เป็นครัวที่ใช้สำหรับปรุงอาหารที่ผ่านความร้อนหรือใช้ความร้อนในการปรุงอาหารทุกชนิดทั้งต้ม ผัด แกง ทอด
- ครัวเย็น (Cold Kitchen) เป็นครัวที่ใมช้ปรุงอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น ซูชิ น้ำสลัด ซอสที่ไม่ผ่านการเคี่ยวด้วยความร้อน และตกแต่งจานอาหาร
- ครัวเบเกอรี่ (Bakery Kitchen) เป็นครัวที่เน้นการประกอบของหวาน ขนม และการอบ
- ครัวไทย ( Thai Kitchen) ครัวที่เน้นการปรุงอาหารไทย หรืออาหารที่ใช้เครื่องเทศปริมาณมาก และมีกลิ่นที่แรง
อยากมีครัวฝรั่งต้องมีอะไรบ้าง
- อุปกรณ์สำหรับใช้ในครัวฝรั่งหรือครัวตะวันตกจะมีทั้งหมดดังนี้
- เตาสำหรับประกอบอาหาร
- เตาอบ
- เคาท์เตอร์ครัว
- ตู้เย็นหรือตู้แช่แข็ง
- หม้อขนาดต่างๆ
- กระทะขนาดต่างๆ
- เครื่องบดหรือปั่นอาหาร
- ชามสำหรับผสมส่วนผสม
- มีดสำหรับหั่นประกอบอาหาร
- มีดสำหรับปอก
- เขียงสำหรับหั่นผัก-ผลไม้
- เขียงสำหรับหั่นเนื้อสัตว์
- เครื่องคำนวนปรริมาณ
- ชุดตวง
- แผ่นรองอบ
- อะลูมีเนียมฟอย
- ทัพพี ตะหลิว ช้อนชิม ที่จับอาหารแบบยาว
- แผ่นรองกันร้อน
- ถุงมือกันความร้อน
- ผ้ากันเปื้อน